อีกเพียง 9 วันก็จะถึงงานเปิดตัว iPhone 6s แล้วนะฮะ มาฟันธงกัน มีอะไรใหม่บ้าง?

อีกเพียง 9 วันเท่านั้นก็จะถึงงานเปิดตัว iPhone 6s กันแล้ว เราลองมาเดากันเล่นดีกว่าว่าภายในงานจะมีอะไรใหม่ๆ มาเปิดตัวกันบ้าง แล้วสิ่งที่เราๆ ท่านๆ ร่วมกันฟันธงนี้จะแม่นยำขนาดไหนก็ต้องรอให้ถึงวันงานก่อนนะฮะ แต่ว่าวันนี้เรามาลองฟันธงกันเล่นๆ ก่อนดีกว่าว่าจากข่าวลือที่ผ่านมานั้นจะมีอะไรบ้างที่มีแนวโน้มจะเปิดตัวในงานวันที่ 9 กันยายนที่จะถึงนี้ !!

Apple คอนเฟิร์ม 9 กันยายนนี้ มาแน่ !! iPhone 6s

ช่วงสัปดาห์นี้แอปเปิลได้ส่งบัตรเชิญสื่อมางานเปิดตัวอะไรซักอย่างนึง ซึ่งไม่บอกก็รู้แหล่ะว่ามันคือ iPhone 6s แน่นอน ก็แหมพี่เล่นเปิด 9-11 กันยายนมา 4 ปีติดกันแล้ว

จะว่าไปช่วงหลังแอปเปิลก็เป็นบริษัทที่เดาได้ไม่ยากนะเรื่องวันจัดงาน แต่คำถามคือแล้วมันจะมีอะไรใหม่บ้าง วันนี้เราเลยจะมา (เดา) ดูกันว่า ตามข่าวลือทั้งหมดที่ออกมา กับ ไอโฟน6s จะมีอะไรใหม่บ้างหนอ

ฟันธง มี / ไม่มี อะไรบ้างใน iPhone 6s

มาชัวร์

• ชื่อ iPhone 6s : ของเครื่อง คงไม่ได้ใช้ชื่อ iPhone 7 เป็นแน่แท้ เพราะก็ตามธรรมเนียมเปิดรุ่น S ทุก 2 ปี รวมถึงภาพกล่องที่หลุดออกมา ก็ใช้ชื่อ iPhone 6s นะจ๊ะ

• ขนาดเครื่องเท่าเดิม : แอปเปิลออกรุ่นดีไซน์ใหม่ และรุ่น S แต่ใช้ดีไซน์เดิม สลับไปมาแบบนี้ 6 ปีแล้ว ซึ่งทั้งจากภาพหลุดและตามธรรมเนียม เราก็คงเป็นไอโฟนรุ่นใหม่ ขนาดเท่าเดิม 4.7 นิ้วและ 5.5 นิ้วนั่นแหล่ะ

• จอ Force Touch : จุดขายของรุ่นใหม่น่าจะอยู่จอแบบแยกแรงกดได้ ซึ่งจะเอามาทำอะไร อันนี้ต้องรอดู แต่คาดว่าแอปเปิลเอามาใส่ในไอโฟนทั้งที ต้องไม่ธรรมดา

• อัพสเปคใหม่ : มันก็แน่นอนอยู่แล้ว แต่คำถามคือจะอัพแรงแค่ไหน ซึ่งตามข่าวที่หลุดมา แทบทุกที่คอนเฟิร์มว่า A9, แรม 2GB น่าจะชัวร์แหล่ะ

• กล้องใหม่ 12 ล้าน ถ่ายวิดีโอ 4K : จริงๆ กล้อง iPhone 6 ก็ดีอยู่แล้ว แต่หลายคนก็สงสัยว่า กล้อง 8 ล้านเท่าเดิมจะทำให้เครื่องมันปูดออกมาทำไม ซึ่งถ้า iPhone 6s ใช้กล้อง 12 ล้านตามข่าวจริง ก็น่าจะตอบได้ว่า ดีไซน์กล้องปูดออกมา คือทำไว้รอกล้องเทพนี่เอง หลังจาที่สายสืบออกมาเผยสเปค iPhone 6s ต่าง ๆ มากมาย และตอนนี้ก็มีข่าวหลุดออกมายืนยันว่า iPhone 6s จะมีกล้อง 12 ล้านพิกเซล ซึ่งเดิมที่มีเพียง 8 ล้านพิกเซล ตั้งแต่สมัย iPhone 4S
  กล้องหลังแบบใหม่นี้จะทำงานร่วมกับชิป A9 เพื่อประมวลผลให้ภาพดูสวย สดใสมากที่สุด นอกจากนี้แอปเปิลยังตัดสินใจใส่ฟีเจอร์ถ่ายวิดีโอความละเอียดระดับ 4K มาให้ใน iPhone 6s อีกด้วย เพื่อต่อสู้มือถือเรือธงต่าง ๆ ในตลาด และยกระดับประสบการณ์การใช้งานให้ตอบรับกับหน้าจอของ iMac 5K Retina Display ที่เคยเปิดตัวไป
  นอกจากนี้ยังพบโค้ดใน iOS 9 (Beta) ว่า iPhone 6s จะมีกล้องหน้าที่ดีขึ้น โดยจะสามารถถ่ายภาพ Slow-mo ที่ความละเอียด 720p, ถ่ายภาพ Panorama จากกล้องหน้าได้ เพื่อให้สามารถ Selfie ได้อย่างง่ายดาย และอาจจะมาพร้อม LED แฟลช เพื่อให้หน้าของเราสวยใส ลด Noise

• วัสดุใหม่ งอยากกว่าเดิม : น่าจะชัวร์นะ มีตัวเฟรมด้านในหลุดมาซะขนาดนี้

ยังไม่ชัวร์

• สีชมพู : เป็นข่าวฮือฮาสุด และสาวๆ แทบกรี๊ด รอซื้อกันไม่ไหว กับ iPhone 6s สีชมพูกุหลาบ ซึ่งจนถึงทุกวันนี้ก็ยังไม่ได้มีภาพแบบชัดๆ ให้ได้เห็น มีแต่เพียงข่าวลือ และบางสำนักก็บอกว่าไม่น่าจะมี อันนี้ยัง 50/50 นะจ๊ะ

• พื้นที่เริ่มต้น 16GB หรือ 32GB : เดือนก่อนมีข่าวให้ชื่นใจว่าแอปเปิลจะปรับให้ iPhone 6s รุ่นเล็กสุดเริ่มที่ความจุ 32GB แต่ภาพกล่องที่หลุดออกมาล่าสุด ดันมีรุ่น 16GB โผล่ออกมา อันนี้ก็ต้องรอดูกันว่าหวยจะออก 16/64/128 หรือ 32/64/128 กันแน่
• iPhone 6c : ไม่น่าจะมีนะ แต่ถ้ามีจริงก็อาจจะไม่ได้เปิดตัวในงานวันที่ 9 ก.ย.นี้

ไม่มีแหงๆ

• ใช้พอร์ทใหม่ USB-C : เป็นข่าวลือมั่วๆ มาช่วงนึงว่าแอปเปิลจะเลิกใช้พอร์ท Lightning เดิม แล้วหันมาซบ USB-C แบบเดียวกับ MacBook รุ่นใหม่ ซึ่งดูแล้ว ไม่น่าจะเป็นไปได้ (ในตอนนี้)
• iPhone 7 : ใจเย็นๆ

คำถามต่อมาคือราคาเท่าไหร่ ? อันนี้ก็เดากันไม่ยาก เพราะไอโฟนก็ราคาเท่าๆ เดิมทุกปี คือประมาณ 24,000 - 25,000 บาท ขึ้นกับค่าเงินบาทในแต่ละปี

สุดท้าย แฟนๆ ถามกันมามากว่าปีนี้ MacThai จะมีจัดงานถ่ายทอดสดมาที่เมืองไทย ให้สาวกได้ไปชาบูๆ ร่วมกันหรือเปล่า ตอนนี้ทีมงานก็บอกได้เลยว่า "รอฟังข่าวดี !!"

เรียบเรียงโดย @Khajochi

.......... .......... .......... ..........

Canon และ Apple อุปกรณ์ถ่ายภาพยอดฮิตของชาว Flickr ในปี 2014

Flickr พื้นที่ออนไลน์สำหรับคนรักการถ่ายภาพ ออกมาเปิดเผยตัวเลขน่าสนใจในปี 2014 พูดโดยสรุปคือ Canon และ Apple คืออุปกรณ์ถ่ายภาพที่ถูกใช้มากที่สุดในปีที่ผ่านมา ถึงแม้ว่า Apple จะไม่ได้ผลิตกล้องถ่ายรูป แต่ iPhone ก็เป็นอุปกรณ์ที่ผู้ใช้งานนิยมใช้มากที่สุดสำหรับการสแน็ปเรื่องราวระหว่างการเดินทาง และอันดับที่ 3 คือ Nikon

จากสถิติของ Flickr ระบุว่าภาพถ่ายที่มาจากกล้อง Canon คิดเป็น 13.4% ตามมาด้วย iPhone 9.6% และ Nikon 9.3% ส่วนอับดับที่ 4 และ 5 คือ Samsung และ Sony

ถ้าจะดูเฉพาะภาพถ่ายจากสมาร์ทโฟนอย่างเดียว ต้องบอกว่า Apple กินขาด เพราะ 3 อันดับแรกของ Top 5 คือ iPhone ไล่ตั้งแต่ iPhone 5, iPhone 4S และ iPhone 5C ตามมาด้วย Samsung S3 และ Samsung Galaxy S5 ปิดท้ายด้วย iPhone 6 น้องใหม่ที่เพิ่งวางขายเมื่อปลายปีก็เข้ามาอยู่ในลิสต์กับเขาด้วย

นอกจากนี้ iPad และ iPad mini ยังติดเข้ามาเป็นอันดับที่ 8 และ 10 ได้รับความนิยมพอๆ กับ HTC One

สำหรับ Top 5 ในประเภทกล้องแบบ mirrorless กล้องตัวเล็กแต่ความสามารถระดับโปร ได้แก่ Olympus E-M5, Sony A7, Sony NEX-6, Fujifilm X-E1 และ Sony NEX-5N

โดยทาง Flickr ระบุว่า ในปีที่ผ่านมา มีการอัปโหลดรูปราวๆ 10000 ล้านรูปเข้ามาในระบบ จากผู้ใช้งานมากกว่า 100 ล้านคนทั่วโลก

ที่มา : http://hitech.sanook.com/1393821

ติดตามข่าวความเคลื่อนไหวของเทคโนโลยีรอบโลกได้ที่นี่ >>> www.hitech.sanook.com

.......... .......... .......... ..........

5 วิธีแบตเตอรี่โน้ตบุ๊คแท็บเล็ตระบบปฏิบัติการ Windows 8 แบบง่ายๆ

อุปกรณ์ไอทีสมัยนี้ล้านแต่นิยมการใช้งานแบบไร้สายทั้งนั้น ซึ่งนั่นก็ต้องหมายความว่าบนอุปกรณ์เหล่านั้นต้องติดตั้งแบตเตอรี่อยู่ภายใน

ซึ่งตัวโน้ตบุ๊คเองก็จัดว่าเป็น คอมพิวเตอร์ ที่นำติดตัวไปใช้งานนอกสถานที่ได้โดยสะดวก แต่มีข้อจำกัดเรื่องแบตเตอรี่ว่าเป็นตัวกำหนดว่าเครื่องนั้นๆ จะสามารถใช้งานต่อเนื่องได้นานกี่ชั่วโมงซึ่งใครๆ ก็อยากจะประหยัดแบต โน๊ตบุ๊ค ให้ใช้งานต่อเนื่องให้ได้นานที่สุดแน่นอน

โดยในปัจจุบันระบบปฏิบัติการ Windows 8 ได้เข้ามามีบทบาทมากยิ่งขึ้น ในเรื่องของการประยัดพลังงานแบตเตอรี่ โดยอุปกรณ์ใช้ Windows 8 ก็จะมีโน้ตบุ๊คอย่างที่เราๆ ใช้กันอยู่ รวมไปถึงแท็บเล็ตรุ่นใหม่ๆ ที่ใช้เป็นระบบปฏิบัติการ Windows 8 ด้วย

ในบทความนี้ทางทีมงาน NotebookSPEC จะมานำเสนอ 5 วิธีแบตเตอรี่โน้ตบุ๊คแท็บเล็ตระบบปฏิบัติการ Windows 8 แบบง่ายๆ โดยมีดังต่อไปนี้

1. อัพเดท Windows 8 ให้เป็นเวอร์ชั่นล่าสุดเสมอ

ในการทำงานของคอมพิวเตอร์หลักๆ แล้วประกอบไปด้วยส่วนของฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ แน่นอนว่าถ้าทั้ง 2 อย่างทำงานร่วมกันด้วยดี ก็จะส่งผลให้ประสิทธิภาพโดยรวมของเครื่องดีขึ้นด้วย ฉะนั้นในการอัพเดท Windows 8 ให้เป็นเวอร์ชั่นล่าสุดเสมอ ก็จะช่วยให้ซอฟต์แวร์ของเรามีการปรับปรุง แก้ไข Bug ขจัดขอบกพร่องต่างๆ

2. ตั้ง Power Option ให้เหมาะสม

ตั้งค่าที่ส่วนของ Power Option โดยให้เราคลิกซ้ายที่รูปแบตเตอรี่ตรง Taskbar ฝั่งขวามือแล้วเลือกที่คำสั่ง More power options ที่เป็นคำสั่งล่างสุด จากนั้นจะมีแถบช่องให้เลือกเป็น Balance คือใช้พลังงานแบบปกติหรือ Power Saver ที่เป็นฟังก์ชั่นประหยัดพลังงานของโน้ตบุ๊ก

3. ความสว่างหน้าจอก็สำคัญ

ตั้งค่าความสว่างหน้าจอให้พอดีต่อการใช้งาน เพราะหน้าจอเป็นส่วนที่สิ้นเปลืองพลังงานมากที่สุดสำหรับโน้ตบุ๊ก ดังนั้นเวลาเราจะนำไปใช้งานนอกสถานที่ล่ะก็ควรปรับตั้งความสว่างหน้าจอให้สว่างกำลังดี ไม่มืดจนเกินไปเพื่อยืดระยะเวลาใช้งานแบตเตอรี่ให้ยาวนานขึ้น รวมไปถึงโน้ตบุ๊กใครที่มีไฟคีย์บอร์ด Backlit ก็ปิดหรือเปิดให้สว่างพอดีก็ช่วยได้นะครับ

4. ปิดการทำงานบางส่วน

ปิดการทำงานของอุปกรณ์บางชิ้นที่เราไม่ได้ใช้งาน เช่นปริ้นเตอร์หรืออุปกรณ์เชื่อมต่อเสริมบางตัว โดยเราสามารถปิดการทำงานได้ที่ Device Manager โดยคลิกขวาที่ My Computer แล้วเลือก Properties จะมีคำสั่ง Device Manager อยู่ที่แถบฝั่งซ้ายมือที่คำสั่งแรกสุด (เวลาจะปิดใช้งานอุปกรณ์ไหนก็อ่านดีๆ ก่อนนะ!)

5. เก็บแผ่น ปิด Bluetooth, Wi-Fi ถ้าไม่จำเป็น

งดการใช้แผ่น CD เพื่อประหยัดพลังงาน เพราะการดูหนังฟังเพลงผ่านแผ่น CD จะทำให้ตัวเครื่องดึงพลังงานจากแบตเตอรี่มาใช้มากขึ้น ทำให้สิ้นเปลืองพลังงานมากกว่าเดิม รวมไปถึงปิดการใช้งาน Bluetooth, Wi-Fi ของเครื่องด้วย ถ้าหากไม่ได้ใช้งานขณะนั้น

ที่มา: http://hitech.sanook.com/1393825

ติดตามข่าวความเคลื่อนไหวของเทคโนโลยีรอบโลกได้ที่นี่ >>> www.hitech.sanook.com

.......... .......... .......... ..........

WeChat อัพเดทเวอร์ชั่นใหม่ มาพร้อมฟีเจอร์เด็ดโดนใจขาแชทอย่างเราๆ

แอพ WeChat เป็นแอพที่รองรับการสนทนา "หาเพื่อนใหม่" สร้างสังคมออนไลน์ที่เข้ามามีชื่อเสียงและเจาะกลุ่มวัยรุ่นในเมืองไทยมาสักระยะแล้วครับ ล่าสุดนั้น WeChat  ได้เปิดให้อัพเดทเวอร์ชั่นใหม่กันแล้ว และขอบอกว่าในเวอร์ชั่นใหม่ล่าสุดนั้นมีลูกเล่นที่น่าสนใจมาให้เราได้เล่นกันหลายตัวเลย ตรงนี้ขอเน้นว่าลูกเล่นใหม่นี้น่าเล่นและโดนใจสุดๆ

มาดูกันที่ฟีเจอร์ใหม่ตัวแรกที่เรียกกันว่า Recall Message ฟีเจอร์สำหรับเรียกข้อความที่ส่งผิดกลับเพื่อยกเลิกข้อความที่เราอาจส่งผิดคนแบบไม่ได้ตั้งใจหรือพิมพ์ผิดได้ และมีข้อกำหนดว่าต้องเป็นข้อความที่ส่งออกไปไม่เกิน 2 นาที(ดึงกลับมาเหมือนเมล์เลย!!)

สำหรับการเรียกคืนข้อความที่คุณส่งผิดนั้นก็ทำไม่ง่ายๆ เพียงแค่ที่รายชื่อคนที่คุณส่งข้อความไปหาผิดและทำการแตะที่ข้อความเลือก "เลิกส่ง" แค่นี้ก็เรียบร้อย

ดังนั้นข้อความที่ส่งไปผิดหรือไม่ได้ตั้งใจนั้นจะถูกเรียกกลับ หากอีกฝ่ายยังไม่เปิดอ่านก็จะไม่มีโอกาสเห็นข้อความนั้น >.< เจอฟังก์ชันใหม่ตัวนี้เข้าไปก็ฟินแล้ว

มาดูฟัฟีเจอร์เด่นๆ ที่เหลือกันบ้างครับว่ามีอะไรใหม่บ้างเริ่มด้วย

• Sight ถ่ายรูป ส่ง clip ที่ง่าย และสามารถใช้งานได้ด้วยมือเดียวอย่างรวดเร็ว ฉีกการออกแบบ UI แบบเดิม ๆ ออกไป
• Special mention ความสามารถพิเศษที่สามารถส่งข้อความแบบระบุตัวบุคคลใน group chat ได้
• Sticky on top ความสามารถ ปักหมุด chat ใด ๆ ไว้บนสุดได้ตลอดเวลา เพื่อไม่ให้พลาดการติดต่อ หรือต้องเสียเวลาหา
• Translation ความสามารถต้อนรับ AEC ที่ทาง WeChat ช่วยแปลภาษาให้ได้เลย ไม่ว่าเขาจะส่งภาษาอะไรมาก็ตาม รองรับ เกือบทุกภาษา โดย link กับ google translate โดยตรง
• Favorite Message ความสามารถเก็บ ข้อความที่ชอบ หรือ สำคัญไว้ได้ ที่สำคัญคือ ไม่ได้เก็บไว้ในเครื่องเท่านั้น แต่เก็บไว้บน cloud ย้ายเครื่องยังไงก็ยังดึงข้อความนั้นมาดูได้ !!
• Double Tap – Read View ความสามารถขยาย text ขี้นมาให้ดูง่ายขึ้น ไม่ต้องเพ่งตัวหนังสือเล็ก ๆ ในหน้าจอเล็ก ๆ กันอีกต่อไป แบบเดียวกับการ double tap zoom ใน mobile web browser อื่น ๆ
• Double Click Chat ความสามารถสำหรับขาเมาท์มอย ที่คุยเยอะ chat เยอะ แล้วอ่านเยอะ แต่ไม่ตอบ จะหาห้องที่ยังไม่อ่านก็ยาก แค่ double click WeChat ก็จะ ดึงห้องที่ยังไม่ได้อ่านขึ้นมาบน ๆ ให้เอง
• Notification off ห้องไหนคุยเยอะ แต่ไม่พร้อมจะรับรู้ตอนนี้ กดปิดได้ทันที
• Mark As Unread ความสามารถที่เหมาะกับการทำงานสุด ๆ อ่านแล้ว รับรู้แล้ว แต่ยังไม่พร้อมทำ กลัวลืม mark as unread ได้ซะ

ต่อมาเป็นแอพใหม่ Mojime ที่อยากแนะนำเพราะมันน่ารักดีแอพเสริมที่ใช้งานงานคู่กับ Wechat เป็นการนำภาพของเรามาทำเป็นการ์ตูนดุ๊กดิ๊กเคลื่อนไหว น่ารักๆ แล้วส่งในห้อง chat หรือ social ได้เลย

มาดูขึ้นตอนง่ายๆ ในการทำการ์ตูนดุ๊กดิ๊กกันครับ

1. ขั้นตอนแรกต้องทำการดาวน์โหลดแอพ Mojime มาก่อนครับ 

สำหรับใครที่ใช้ iOS สามารถดาวน์โหลดได้ที่ itunes

สำหรับใครที่ใช้ Android  สามารถดาวน์โหลดได้ที่ Google Play

2. หน้าตาของแอพ Mojime ที่ได้ทำการดาวน์โหลดมาเรียบร้อยแล้ว ส่วนของการใช้งานนั้นก็ไม่ได้ยุ่งยากหรือสลับซับซ้อนอะไรมาก มาดูกันครับว่าการจะสร้าง การ์ตูนดุ๊กดิ๊กเคลื่อนไหว น่ารักๆ เป็นรูปของเราเองนั้นทำยังไง

ขึ้นตอนแรกเมื่อเราเปิดแอพมาใช้งานนั้นหน้าต่างแรกของ Mojime จะเป็นการให้เลือกลักษณะของภาพที่จะนำมาทำการ์ตูนดุ๊กดิ๊ก โดยแบ่งเป็นภาพที่ทำการถ่ายใหม่หรือจะทำการเรียกใช้งานรูปในอัลบั้มมือถือก็สามารถทำได้

เมื่อได้รูปแล้วตัวของแอพเองยังมี แอ็คต่างๆ มาให้เลือกใส่อีกมากมายไม่ว่าจะเป็นแบบ Momo, Surprise, TV Drama, Morror, Movies หรือ Cute Girl เลือกได้ตามความชอบส่วนตัว

นอกจากนี้นั้นยังมี Sticker Gallery ให้เลือกโหลดอีกมากมาย เมื่อทำการเลือกแอ็คที่ถูกใจแล้วก็ทำการ Save เป็นงั้นเสร็จขึ้นตอนการสร้างตัวการ์ตูนดุ๊กดิ๊ก

หลังจากนั้นก็เป็นการส่งให้เพื่อนๆ ใน Wechat ซึ่งทางทีมงานเชื่อว่าหลายๆ คนก็คงเกิดอาการ "งง" เล็กน้อยสำหรับขึ้นตอนสส่วนนี้ งั้นมาดูกันครับเราจะส่งกันยังไง

ให้เลือกที่ไอคอนตามภาพในกรอบสีแดงด้านบนครับ หลังจากนั้นแอพจะให้เลือกว่าเราต้องการที่จะส่ง การ์ตูนดุ๊กดิ๊ก ท่าทางแบบไหนให้เพื่อน เมื่อได้แล้วให้คลิกเลือกที่ไอคอน Wechat ตามภาพด้านบนอีกครั้งครับ เพียงแค่นี้คุณก็สามารถส่งการ์ตูนดุ๊กดิ๊กน่ารักไปหาเพื่อนในขณะแชทได้แล้ว

ทั้งหมดนี้เป็นเพียงแค่ฟีเจอร์ใหม่ที่ได้อัพเดทมาใน WeChat เวอร์ชั่นใหมเท่านั้น แอพดีๆ แบบนี้อย่าลืมโหลดมาไว้เล่นกันนะครับ ยังไงเชื่อว่าแอพ WeChat จะไม่หยุดพัฒนาและสรรหาอะไรใหม่ๆ ออกมาให้พวกเราได้เล่นกันอย่างต่อเนื่องแน่นอน หากเวอร์ชั่นใหม่มีการอัพเดทเมื่อไร ทางทีมงาน Sanook! Hitech จะกลับมาพร้อมกับรีวิวอีกครั้ง!!

ลิงค์สำหรับดาวน์โหลดคลิกที่นี่ >>> www.wechat.com

ขอบคุณภาพประกอบจาก: www.techinasia.com, www.beartai.com

ที่มา: http://hitech.sanook.com/1393161

.......... .......... .......... ..........

พรีวิว รีวิว ทดสอบใช้งาน iPhone 6 จ้าแบบจัดเต็ม!!

รีวิว iPhone6 จัดเต็มแบบไทยไทย : ไอโฟนใหม่ มันใหญ่ดีนะ

ในที่สุดทางกลุ่มงานก็มีรีวิว iPhone 6 อย่างเป็นทางการในเมืองไทยมาฝากแฟนๆ กันครับ งานนี้ขอปริปากว่า เป็น รีวิวiPhone 6 แบบจัดเต็ม ที่แรกๆในไทยชะด้วย งานนี้ต้องขอบคุณน้องอุ้มแห่ง iaumreview.com ที่เขียนรีวิวให้เราได้อ่านกัน

สวัสดีค่ะ พร้อมทั้งแล้ววันนี้ก็มาถึง ได้มานั่งเขียนรีวิวกันสักที ถ้าใครติดตามเพจอุ้มอยู่ คงจักทราบถึงความหฤโหดในการหาเครื่อง iPhone6 ใช่ไหมว่า 6 Plus มารีวิวในครั้งนี้ค่ะ

ด้วยเหตุว่าของเข้ามาน้อย ด้วยกันดันไปติดอยู่ที่ ตม.ซะหมด สนนมูลค่าเลยสูงโด่ง จนไม่กล้า แม้แต่จักซื้อมาเลยค่ะ ความแน่นอนแล้ว อุ้มตั้งใจว่า จักจัด iPhone 6 Plus มารีวิวให้ชมกันก่อน แต่เพราะความยากลำบาก เลยขอเอาเจ้า iPhone6 ตัวนี้ มารีวิวให้ชมกันก่อนค่ะ บ่นมาซะยาว ไปบุกเบิกกันเลยดีกว่าค่ะ

iPhone 6 เฮ้ย! ไอโฟนใหญ่ขึ้น ::

อย่างที่ทราบกันดีนะคะ ว่า Apple เริ่มทำ iPhone ใหม่ถึงสองรุ่น คือ iPhone 6 พร้อมด้วย iPhone 6 Plus ทำนูลตามตรงค่ะ ว่าไม่เคยเหลียวมองเจ้า i6 เลยแม้แต่น้อย เพราะว่าพุ่งความสนใจไปที่ iPhone จอใหญ่มากอย่างเจ้า i6+ ซะมากกว่า เพราะว่ารอมานานค่ะ ตะกลามให้ iPhone ออกจอใหญ่ๆ ใช้แทน iPad ไปเลยยิ่งดี 555

First Impression ::

“เออ มันก็สวยดี” นี่เป็นสิ่งแรกที่คิดอยู่ในหัว ตอนเปิดฝากล่องออกมาค่ะ ด้วยความบาง ระดับที่เรียกว่า บางมากๆ เพราะว่าหนาเท่า 6.9 mm หนักแค่ 129 กรัม เพิ่มจาก iPhone5S มาเล็กน้อยค่ะ หน้าจอขนาด 4.7 นิ้ว จักว่าใหญ่ ก็ใหญ่ขึ้น แต่ก็ไม่ได้ลำบากในการจับค่ะ คงเป็นก็เพราะว่าว่าตัวเครื่อง มีความมนขึ้น วัสดุด้านหลัง ใครที่ใช้งาน Macbook คงจักคุ้นเคยกับสัมผัสแบบอลูมิเนียมแบบนี้ค่ะ

ส่วนด้านหลัง ต้องเรียกว่า ไม่ค่อยสวยเลย -*- ความคิดเห็นส่วนตัว ยังไงก็คิดว่า iPhone5S ด้านหลังสวยกว่ากันบานตะไทค่ะ อันนี้ตรงเส้นด้านบน ออกแบบมาไม่ค่อยเข้ากับตัวเครื่องสักเท่าไหร่ เสียดายเหมือนกันค่ะ

ปุ่ม Power ถูกขยับไปอยู่ด้านขวาแทน ก็เพราะว่าว่าจอที่ใหญ่ขึ้น ถ้าปุ่ม Power อยู่ด้านบน คงจักกดลำบากขึ้นทีเดียวค่ะ

ลองใช้งานสุทธิ ::

:4.7” Screen :

สิ่งที่หลายๆคนจะกลัวกันค่ะ คือ ครั้นเท่าที่จอใหญ่ขึ้นแล้ว การใช้งานด้วยมือเดียว จักสร้างความลำบากให้ชีวิตมากขึ้นมั้ย ก็ต้องยอมรับว่าลำบากกว่าใช้งาน iPhone 5S ค่ะ แต่ก็แลกมาด้วยหลายๆอย่าง ด้วยหน้าจอ 4.7 นิ้ว ที่มีความละเอียด 326 ppi ซึ่งถือว่าสูงพอสมควร หน้าจอแบบ Retina HD Display สวยงามน่าประทับใจเหมือนเดิมค่ะ ถึงจะละเอียดเท่า M8 ที่อุ้มใช้งานอยู่ไม่ได้ แต่สีสัน จัดว่าดูดีไม่พ่ายพ่ายแพ้กันค่ะ

: การใช้งานมือเดียว :

Apple ได้ออกแบบการใช้งานในรูปแบบต่างๆ เพื่อมา support ให้ลูกค้า ยังเก่งใช้งานด้วยมือเดียว เพราะว่าว่าที่นิ้วของเราไม่เก่งกวาดไปถึง เพราะว่าแตะที่ ปุ่มโฮม 2 ครั้ง ปางเท่านี้ ข้อมูลทั้งหมดบนหน้าจอ ก็จักถูกเลื่อนลงมาอยู่ด้านล่าง ทำให้เชี่ยวชาญกดได้ถึงค่ะ

iOS8 ::

จักว่าไปแล้ว มีหลายๆ ฟังก์ชั่นของ iOS8 ที่อุ้มคิดว่าพัฒนาขึ้นจาก iOS7 (แม้ว่าอีกค่าย จำทำไปแล้วก่อนหน้านั้น XD) เพราะว่าเฉพาะเท่าที่มาใช้งานบน iPhone 6 ค่ะ อุ้มจะยกบาง Features มาดังนี้ค่ะ

: Widgets บน Notification Center :

พร้อมด้วยแล้วในที่สุด เราก็เก่งมี Widgets บน iPhone ได้ค่ะ เพราะตราบเราดาวน์โหลดแอพที่ Support มาใช้งาน เช่น Launcher / Wdgts / Yahoo Weather แทบเท่านี้ก็ทำได้เพิ่มเข้า Notification Center ได้ทันที

: พูด แล้วพิมพ์ไทยให้ :

ฟังก์ชั่นนี้หลายๆ คนเล่นกันอย่างสนุกสนานนะคะ แค่เราเปิดการใช้งาน Siri แล้วกดปุ่มไมโครโฟนบน Keyboard ภาษาไทย เท่านี้เราก็เป็นได้พูดประโยคที่ต้องการ เพื่อให้ iPhone ของเราพิมพ์ไทยลงไปให้ได้เลยค่า

: Siri พูดรู้เรื่องขึ้น :

ระยะนี้คุณ Siri ได้พัฒนาตนเองให้คุยกับเราง่ายขึ้นกว่าเดิมมากนะคะ รวมทั้งมีคำสั่งใหม่ๆเพิ่มเข้ามาอีกด้วย แม้เราจักไม่ได้มี Accent แบบเจ้าของภาษา เราก็ศักยสื่อสารกับ Siri ได้ค่ะ ยังไงก็รอวันให้มีภาษาไทยเพิ่มเข้ามาค่ะ

: Favorite บนหน้า Multitasking :

เท่าที่เรากดปุ่มโฮม สองครั้ง ก็จักโชว์แอพที่เราทำการเปิดค้างไว้ แต่ในประเดี๋ยวนี้ จักโชว์ Contact ที่เราบันทึกไว้ใน Favorite พร้อมด้วยยังมี Recent call ขึ้นมาอีกด้วย ทำให้เราโทรออกหาคนอื่นได้ง่ายขึ้น

ว่าด้วยเรื่องกล้อง ::

กล้องเป็นอีกสิ่งนึงที่ถูกพัฒนามากขึ้นใน iPhone6 ค่ะ แม้ว่าจำนวน Pixel จะยังคงยืนหยัดอยู่ที่กล้องหลัง 8MP พร้อมด้วยกล้องหน้า 1.2 MP แต่สิ่งที่เปลี่ยนไป คือ New Sensor พร้อมด้วยระบบ Autofocus แบบ “Focus Pixel” ซึ่งจักมีการเกลี่ยแสงของภาพให้ดีขึ้น พร้อมกับยังเพิ่มขนาดของรูรับแสงให้กว้างขึ้น ทำให้ภาพมีความสว่างมากขึ้นอีกด้วยค่ะ นอกจากนี้ ยังรอบรู้ตั้ง HDR ให้เป็นแบบออโต้ รวมทั้งตั้งเวลาการถ่ายภาพได้ด้วย

ส่วนเรื่องของการถ่ายวิดีโอ ก็มีโหมดของ Slo-mo แบบ 240 fps เพิ่มขึ้นมา ซึ่งจักถ่ายแบบช้ากว่าเดิมค่ะ กับมีโหมด Time-lapse เหมาะด้วยถ่ายวิดีโอในเวลานานๆ เรียกว่าเป็นลูกเล่นใหม่ด้วย iOS8 เลยทีเดียวค่ะ

ส่วนกล้องหน้า คุณภาพภาพถ่ายออกมาดูดีขึ้นค่ะ คือภาพมีความคมชัดขึ้น Noise น้อยลง เรียกได้ว่า ใครที่ชอบถ่ายภาพตัวเอง ไม่ควรพลาดนะคะ

ตัวอย่างภาพถ่ายจาก iPhone6

ถ่ายในที่แสงน้อย

ว่าด้วยเรื่อง Multimedia ::

iPhone 6 มากับ A8 chip พร้อมกับ M8 Motion Processor เนื่องด้วยในส่วนนี้ จากการใช้งานแท้ ไม่ว่าจักเป็นการเข้าแอพต่างๆ ใช่ไหมไม่เข้าเกมต่างๆ ก็ทำได้เร็วขึ้นค่ะ กับในบางทีที่อัพ iPhone5S เป็น iOS8 แล้วกระตุก พอมาใช้งานใน iPhone6 กลับไม่กระตุก จะเป็นยังไง ไปดูในคลิปกันเลยดีกว่าค่ะ

สรุปจักซื้อไม่ซื้อ ? ::

ซื้อค่ะ แต่คงซื้อ iPhone 6 Plus เพราะว่าว่า ด้วยว่าอุ้ม ต้องการนำมาใช้งานแทน iPad mini ด้วยเลยทีเดียวค่ะ กับต้องการแบตที่อึดมากกว่านี้ จากการลองเล่นกะ 1 วัน คิดว่า เจ้า iPhone 6 ไม่น่ามีชีวิตรอดแบบเต็มวันเพราะที่ไม่ชาร์ทค่ะ อาจจักอึดขึ้นกว่าเก่าบ้าง แต่ไม่ต่างจนเห็นได้ชัด

iPhone 6 เหมาะกับคนที่ใช้ iPhone 5 ไม่ก็ไม่ 5S ทำเป็นซื้อมันได้อย่างไม่ตะขิดตะขวงใจแน่นอนค่ะ ด้วยขนาดที่จับสบายกว่า iPhone6 Plus ยังทำเป็นใช้งานมือเดียวได้ พร้อมด้วยแนบกับหน้าเพราะว่าว่าที่ไม่รู้สึกว่าใหญ่เกินไป

จุดต่างที่เห็นได้เพราะว่า iPhone 6 พร้อมด้วย iPhone 5/5S ในความรู้สึกของอุ้ม

1. จอใหญ่ขึ้น
2. บางลง
3. กล้องดีขึ้นทั้งหน้าพร้อมกับหลัง
4. ทำงานไวขึ้น iOS 8 ไม่กระตุก
5. NFC (ยังไม่ได้ลอง)
6. แบตอึดขึ้นเล็กน้อย
7. เล่นเกมได้สมยิ่งขึ้น
8. ตัวหนังสือทั้งระบบตัวใหญ่ขึ้น
9. Keyboard พิมพ์ง่ายขึ้น

เหตุด้วยวันนี้ ขอพอแค่นี้ก่อนนะคะ หลายๆประเด็นลืมพูดไป ขอแก้ตัวกับ iPhone 6 Plus นะคะ จักมาจัดเต็มให้ชมกันอีกสักรอบ ขอบคุณมากค่า

ที่มา : http://thaizones-hitech.blogspot.com/2014/09/iphone-6_24.html

ติดตามข่าวความเคลื่อนไหวของเทคโนโลยีรอบโลกได้ที่นี่ >>> thaizones-hitech.blogspot.com

.......... .......... .......... ..........