วันอาทิตย์ที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2556

ยกขบวนมือถือ สเปคเร็วแรง กล้องชัด ราคาต่ำกว่าหมื่น

ยกขบวนมือถือ สเปคเร็วแรง กล้องชัด ราคาต่ำกว่าหมื่น

เทคโนโลยีโทรศัพท์มือถือเติบโตแพร่หลายอย่างรวดเร็วมากในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา โทรศัพท์มีประสิทธิภาพมากขึ้นจนแทบไม่อาจเรียกได้ว่าโทรศัพท์อีกต่อไป ดังนั้น เราจึงเรียกอุปกรณ์ที่ใช้โทรออก เล่นวิดีโอ ถ่ายภาพ และอีกมากมายว่าสมาร์ทโฟน หรืออุปกรณ์ฉลาดล้ำที่เป็นมากกว่าแค่โทรศัพท์
วันนี้ทางทีมงาน Sanook! Hitech มีโทรศัพท์มือถือ 4 รุ่นที่ราคาไม่ถึงหมื่นและคุณสมบัติน่าสนใจมาฝากสาวก "แอนดรอยด์" กันครับ

Samsung Galaxy Win 4.7" จอใหญ่ ทุกงานทำได้ ไม่มีสะดุด

คุณสมบัติ ประสิทธิภาพเหลือล้น

• หน้าจอขนาดใหญ่ 4.7นิ้ว มอบการแสดงผลที่ยอดเยี่ยม โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับภาพถ่ายและ ภาพยนตร์
• Quad-Core CPU ความเร็ว 1.2GHz มอบพลังประมวลผลที่ก้าวล้ำ รองรับแอพพลิเคชั่นทั้งหมดได้อย่างครบถ้วน รวมถึงการทำงานแบบมัลติทาสกิ้ง และอื่นๆ อีกมากมาย

การถ่ายภาพที่เหนือกว่าด้วยกล้อง 5 ล้านพิกเซล

เพลิดเพลินกับฟีเจอร์ต่างๆ เช่น การถ่ายภาพต่อเนื่อง, การเลือกภาพที่ดีที่สุด, เอฟเฟ็กต์สี และ Scene Mode เพื่อการถ่ายภาพที่เหนือกว่าด้วยกล้อง 5 ล้านพิกเซล

Easy Mode

Easy Mode ช่วยให้คุณเรียกใช้ฟังก์ชั่นสำคัญๆ เช่น รายชื่อติดต่อ แอพ ปุ่มกด ฯลฯ บนหน้าจอหลักได้อย่างง่ายดาย

Samsung Galaxy Win มาพร้อมราคา 8,900 บาท

Galaxy Ace 3  สมาร์ทโฟนเร็วแรง ระดับ Dual Core กล้อง 5 ล้าน ฟรี!! Flipcover ถ่ายภาพคมชัด


คุณสมบัติ Sound & Shot ช่วยให้คุณสามารถบันทึกเสียงในขณะที่ถ่ายภาพได้

ㆍS Translator บริการแปลภาษาที่รวดเร็วเมื่อต้องติดต่อสื่อสารกับผู้ใช้ทั่วโลก
ㆍS Travel บริการคำแนะนำ ไกด์นำเที่ยว และอีกมากมายสำหรับการเดินทางท่องเที่ยวของคุณ

* S Translator ขึ้นอยู่กับการเชื่อมต่อข้อมูลและภาษาที่พร้อมใช้งานมีจำกัด
อาจมีข้อกำหนดและ/หรือค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม ผลลัพธ์จะแตกต่างกันไปตามสถานการณ์แวดล้อม

สมรรถนะที่เหนือกว่า (2)

ㆍS Voice ใช้เสียงของคุณปลุกโทรศัพท์ รับสายโทรเข้า หรือแม้แต่ถ่ายภาพ
ㆍถ่ายภาพด้วย Best Photos ที่ซึ่งคุณสามารถเลือกภาพที่ดีที่สุดจากการถ่ายภาพต่อเนื่อง 8 ภาพได้เสมอ
ㆍแชร์ภาพกับเพื่อนฝูง ทำให้เพื่อนๆสามารถเข้าถึงภาพถ่ายของคุณอย่างรวดเร็วทันใจเมื่อใบหน้าของพวกเขาถูกจดจำไว้แล้ว

ฟีเจอร์และการบริการที่อัจฉริยะโดดเด่น (1)

ㆍเพลิดเพลินไปกับฟีเจอร์ Android OS รุ่นล่าสุดที่ซึ่งคุณสามารถเข้าถึงข้อมูลได้ทุกที่ทุกเวลา หรือแม้ว่าในขณะที่โทรศัพท์ของคุณจะไม่ได้ใช้งานหรือมีการเชื่อมต่อ
ㆍ Easy Mode ทำให้การตั้งค่าหน้าจอหลักเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น เหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับผู้ใช้สมาร์ทโฟนเป็นครั้งแรก
ㆍ Motion UX ช่วยให้การเคลื่อนไหวเพื่อทำกิจวัตรประจำวันเป็นเรื่องง่าย
Galaxy Ace 3 มาพร้อมราคา 6,900 บาท

Samsung Galaxy Core ซิมคู่พร้อมใช้งานตลอดเวลา รองรับไลฟ์สไตล์อัจฉริยะ

คุณสมบัติ

• สองซิมที่พร้อมใช้งานอยู่เสมอ คุณจึงเรียกใช้ซิมการ์ดทั้งสองได้อย่างทันใจ เช่น รับสายเรียกเข้าที่ซิม 1 ในขณะที่กำลังใช้ซิม 2 อยู่
• ซิมคู่แบบไฮบริดช่วยให้คุณใช้ซิมการ์ดแต่ละอันได้โดยไม่ต้องปิด-เปิดเครื่อง
• ใช้ประโยชน์จากระบบบิลที่แยกต่างหาก โปรค่าโทรที่แตกต่างกัน และความครอบคลุมที่กว้างกว่า

สมรรถนะที่เหนือกว่า

• 1.2GHz CPU มอบพลังประมวลผลที่เหนือชั้นสำหรับการทำงานมัลติทาสกิ้งที่ราบรื่น การโหลดหน้าจออย่างรวดเร็ว และการเปลี่ยน UI อย่างนุ่มนวล
• หน่วยความจำ 8GB รองรับการจัดเก็บข้อมูลจำนวนมาก + 8Gb RAM ช่วยเพิ่มความสะดวกรวดเร็วในการทำงาน
• ประกอบด้วยระบบปฏิบัติการ Android ล่าสุด รุ่น Jelly Bean ทุกสิ่งจึงรวดเร็ว ลื่นไหล และราบรื่น พร้อมการเข้าถึงแผนที่, Google Now, แผงการแจ้งเตือนแบบปรับปรุง และวิดเจ็ทที่ยืดหยุ่น

บริการอัจฉริยะ

• ChatON Messenger เชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือทุกเครื่องผ่านทางแพลตฟอร์มเดียวสำหรับการรับส่งข้อความ
• บริการ Premium Hub Services นำเสนอเนื้อหาคอนเทนต์ที่หลากหลาย (สื่อ e-reading, เพลง, วิดีโอ และเกม) ในฮับที่ใช้งานสะดวก
• บริการคลาวด์มอบประสบการณ์ที่เหมือนกันให้กับอุปกรณ์หลายเครื่อง ด้วยการซิงค์และสำรองข้อมูลและเนื้อหาคอนเทนต์ต่างๆ บนอุปกรณ์

Samsung Galaxy Core  มาพร้อมราคา 7,900 บาท

Samsung  Galaxy S Duos  สำหรับการใช้ชีวิตสองด้านอย่างชาญฉลาด ซิมคู่ พร้อมจอแสดงผลที่คมชัด 4 นิ้ว


Samsung นำเสนอ Galaxy S Duos ต่อยอดจากความสำเร็จของ Galaxy S จาก Samsung มอบสไตล์และดีไซน์ที่สวยล้ำ สมรรถนะระดับไฮเอนด์ และประโยชน์ใช้สอยที่เหนือชั้น พร้อมความสะดวกในการเข้าใช้ดูอัลซิม! เพลิดเพลินกับความสะดวกในการเลือกใช้ซิมที่มีสัญญาณแรงกว่า ครอบคลุมพื้นที่กว้างขวางกว่า ค่าบริการถูกกว่า รวมถึงความสามารถในการแยกสายสนทนาเรื่องงานและเรื่องส่วนตัวออกจากกัน ด้วยคุณสมบัติดีๆ ทั้งหมดที่ Galaxy S Duos มอบให้ และ อื่นๆ อีกมากมาย!

Dual SIM Always On


Dual SIM Always On คือบริการแปลกใหม่ที่ช่วยให้มั่นใจว่าคุณจะไม่พลาดการติดต่อ บริการ Dual SIM จาก Samsung ช่วยให้คุณสามารถรับสายเรียกเข้าขณะที่คุณกำลังเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต หรือแม้กระทั่งในกรณีที่คุณกำลังพูดสายโดยใช้ซิมการ์ดอีกอันหนึ่ง เพิ่มคุณประโยชน์สูงสุดสำหรับการมีซิมการ์ด 2 อันที่พร้อมใช้งานในเวลาเดียวกัน!
ตื่นเต้นกับสุดยอดความบันเทิง ด้วยหน้าจอขนาดใหญ่ 4 นิ้ว
ไม่ต้องหรี่ตาเพื่อเพ่งอ่านข้อความ! ไม่ต้องสูญเสียรายละเอียดเมื่อดูภาพถ่ายหรือวิดีโอ! หน้าจอขนาดใหญ่ 4 นิ้วรองรับการแสดงเว็บเพจ อีเมลยาวๆ ภาพถ่ายและวิดีโอความละเอียดสูงได้อย่างสบายๆ ทุกรายละเอียดจะคมชัดสดใสอย่างแท้จริง

Android ICS ที่ปรับปรุงดีขึ้น


โทรศัพท์ดังกล่าวขับเคลื่อนด้วย ICS OS รุ่นล่าสุด พร้อมการแสดงผลที่เหนือชั้น และเค้าโครงที่เป็นระเบียบมากขึ้น ช่วยให้คุณเพลิดเพลินกับการทำงานอย่างแท้จริง 

Samsung  Galaxy S Duos  มาพร้อมราคา 5 ,900 บาท

ที่มา: http://www.samsung.com/th/promotion/smartphoneunder10k/

iPhone 5S vs Samsung Galaxy S4 ใครมาวิน ชนะเลิศ

iPhone 5S vs Samsung Galaxy S4 ใครมาวิน ชนะเลิศ

เปรียบเทียบ สเปค iPhone 5S vs Samsung Galaxy S4 (S IV) สมาร์ทโฟนเรือธง 2 รุ่น สูสีกันมากน้อยแค่ไหน ?
หลังจากที่ ทีมงาน techmoblog ได้สรุป เปรียบเทียบสเปค iPhone 5S vs Samsung Galaxy Note 3 กันไปแล้ว คราวนี้ เรามาเปรียบเทียบ iPhone 5S (ไอโฟน 5s) กับสมาร์ทโฟนตัวแรงอีกรุ่นจาก ซัมซุงกันบ้าง นั่นก็คือ Samsung Galaxy S4 (S IV) นั่นเอง (iPhone 5S vs Samsung Galaxy S4)
สำหรับ Samsung Galaxy S4 นั้น เปิดตัวครั้งแรก ตั้งแต่เดือนมีนาคม ที่ผ่านมา และถือว่า เป็น แอนดรอยด์โฟน ที่มีสเปคที่แรงที่สุดในตอนนั้นเลยก็ว่าได้ แน่นอนว่า เมื่อ iPhone 5S (ไอโฟน 5S) คู่แข่งรายหลัก เปิดตัวอย่างเป็นทางการ ทั้ง 2 รุ่นนี้ จึงถูกเปรียบเทียบกันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ มาดูกันว่า เมื่อนำ iPhone 5S มาเปรียบเทียบกับ Samsung Galaxy S4 จะมีสเปคแตกต่างกันมากน้อยแค่ไหน
เปรียบเทียบสเปค iPhone 5S vs Samsung Galaxy S4

ยี่ห้อ - รุ่น
iPhone 5S
Samsung Galaxy S4
ขนาดตัวเครื่อง
123.8 x 58.6 x 7.6 มม.
136.6 x 69.8 x 7.9 มม.
น้ำหนัก
112 กรัม
130 กรัม
ขนาดหน้าจอ
4 นิ้ว
4.99 นิ้ว
ความละเอียดหน้าจอ
1136 x 640 พิกเซล
1920 x 1080 พิกเซล
เทคโนโลยีบนหน้าจอ
IPS LCD
Retina display
Super AMOLED
ชิปเซ็ต
Apple A7 พร้อม ชิป M7 motion coprocessor และรองรับการประมวลผล
แบบ 64-bit
Exynos 5 Octa 5420 หรือ Qualcomm Snapdragon 600
พิกเซลต่อนิ้ว (ppi)
326 ppi
441 ppi
RAM
ยังไม่ระบุ
2 GB
หน่วยความจำภายใน
16GB, 32GB, 64GB
16GB, 32GB, 64GB
รองรับ microSD card
ไม่รองรับ
รองรับสูงสุด 64 GB
ระบบปฏิบัติการ
iOS 7
Android 4.2.2 Jelly Bean
กล้องด้านหน้า
1.2 ล้านพิกเซล
2 ล้านพิกเซล
กล้องด้านหลัง
8 ล้านพิกเซล
13 ล้านพิกเซล
ไฟแฟลช
True Tone Flash
(Dual LED)
LED Flash
เครือข่าย 2G
850/900/1800/1900 MHz
850/900/1800/1900 MHz
เครือข่าย 3G
850/900/1900/2100 MHz
850/900/1900/2100 MHz
เครือข่าย 4G
รองรับ
รองรับ
Wi-Fi
Wi-Fi 802.11 a/b/g/n และรองรับความถี่ WiFi แบบ Dual Band (2.4 และ 5 GHz)
Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac และรองรับความถี่ WiFi แบบ Dual Band (2.4 และ 5 GHz)
NFC
ไม่รองรับ
รองรับ
แบตเตอรี่
ยังไม่มีข้อมูล
2600 mAh
iPhone 5S vs Samsung Galaxy S4 (S IV) : การออกแบบ และวัสดุที่ใช้
สำหรับวัสดุตัวเครื่องบน Samsung galaxy s4 นั้น ยังคงเหมือนกับ มือถือซัมซุง รุ่นอื่นๆ นั่นก็คือ ทำมาจากพลาสติกครับ ในขณะที่ iPhone 5S ทำมาจากอะลูมิเนียม ซึ่งให้ความแข็งแรง และทนทานมากกว่า ถึงแม้ว่า iPhone 5 จะได้รับข้อติชมในเรื่องของ ตัวเครื่องเป็นรอยได้ง่าย แต่คาดกันว่า น่าจะได้รับการปรับปรุงแล้วในรุ่นนี้
มาดูที่ขนาดหน้าจอกันบ้าง Samsung Galaxy S4 (S IV) นั้น มาพร้อมหน้าจอขนาด 5 นิ้ว ความละเอียดแบบ Full HD 1920 x 1080 พิกเซล แน่นอนว่า มีขนาดที่ใหญ่กว่า  มากพอสมควร และน้ำหนักมากกว่าเล็กน้อย ส่วนเรื่องความหนาของตัวเครื่อง iPhone 5s มีขนาดที่บางกว่าครับ อยู่ที่ 7.6 มิลลิเมตร ในขณะที่ Samsung Galaxy S4 หนา 7.9 มิลลิเมตร ซึ่งถ้าถือใช้งานปกติ อาจจะมองได้ว่า ไม่ต่างกันมากนัก
ส่วนเรื่องสีสันตัวเครื่อง iPhone 5s มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ Space Gray, Gold และ Silver ส่วน samsung galaxy note 3 มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ สีขาว และ สีดำ แต่คาดว่า น่าจะเปิดตัวสีอื่นอีกในเร็วๆ นี้
iPhone 5S vs Samsung Galaxy S4 (S IV) : หน่วยประมวลผล
มาดูกันที่เรื่องของ หน่วยประมวลผลกันบ้างครับ iPhone 5S นั้น เป็น iPhone รุ่นแรกที่มาพร้อมกับชิป Apple A7 โดยถึงแม้ว่า ทาง Apple จะยังไม่เผยรายละเอียดว่า Apple A7 นั้น เป็นหน่วยประมวลผลแบบ Dual-Core Processor หรือ Quad-Core Processor แต่เชื่อกันว่า Apple A7 น่าจะเป็นหน่วยประมวลผลแบบ Dual-Core Processor ความเร็ว 1.7 GHz ซึ่งบางที Apple อาจจะกำหนดการ clock ไม่ถึง 1.7 GHz ครับ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะช่วยประหยัดพลังงานนั่นเอง
โดยชิป Apple A7 นั้น ทาง Apple เผยว่า ประมวลผลได้เร็วกว่า ชิป Apple A6 บน iPhone 5 และ iPhone 5C ถึง 2 เท่าเลยทีเดียว นอกจากนี้ ยังรองรับการประมวลผลแบบ 64-bit อีกด้วย
นอกจากนี้ Apple A7 ยังมีชิป coprocessor อีกตัวหนึ่ง ที่มีชื่อว่า M7 ซึ่งทำหน้าที่ในการประมวลผลผ่านทางเซ็นเซอร์ accelerometer และ gyroscope ที่เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวโดยตรง ทำให้สามารถ track การเคลื่อนที่ของผู้ใช้ได้ โดยไม่สิ้นเปลืองพลังงานแบตเตอรี่แต่อย่างใด ซึ่งหลักๆ แล้ว ชิป M7 จะใช้กับ แอพฯ ที่เกี่ยวข้องกับ สุขภาพ หรือ การออกกำลังกายเป็นหลักครับ
ส่วน Samsung Galaxy S4 นั้น มาพร้อมกับชิปประมวลผลให้เลือกกันถึง 2 แบบ ซึ่งได้แก่
• ชิปเซ็ต Exynos 5 Octa ประกอบไปด้วย ซีพียู 2 ตัว ได้แก่ Quad-core Cortex-A15 processor ความเร็ว 1.6GHz และ Quad-core Cortex-A7 processor ความเร็ว 1.2GHz 
• ชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 600 ซึ่งเป็นซีพียูแบบ Quad-core processor ความเร็ว 1.9GHz
ซึ่งหน่วยประมวลผลที่ใช้บน Samsung Galaxy s4 นั้น ถ้าเปรียบเทียบกับ มือถือ แอนดรอยด์ รุ่นอื่นๆ ถือว่า เป็นสมาร์ทโฟนตัวแรงตัวหนึ่งเช่นกัน
iPhone 5S vs Samsung Galaxy S4 (S IV) : ระบบปฏิบัติการ
สำหรับระบบปฏิบัติการ (OS) ที่ใช้นั้น มีความแตกต่างกันครับ โดย Samsung Galaxy S4 เป็นระบบปฏิบัติการ Android 4.2 Jelly Bean ส่วนบน iPhone 5S เป็น iOS 7 ที่จะเปิดให้ผู้ใช้ทั่วไปได้ดาวน์โหลดกัน ในวันที่ 18 กันยายน ที่จะถึงนี้ ถ้าหากจะถามว่า OS ตัวไหนดีกว่า จริงๆ แล้วเป็นคำถามที่หาคำตอบไม่ได้ครับ เพราะขึ้นอยู่กับว่า ผู้ใช้ชื่นชอบ ระบบปฏิบัติการ ตัวใดมากกว่ากัน
iPhone 5S vs Samsung Galaxy S4 (S IV) : กล้อง
สำหรับคุณสมบัตินี้ ทั้ง Samsung Galaxy S4 และ iPhone 5S มีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน เนื่องจาก galaxy s4 นั้น มาพร้อมกล้องด้านหลัง ความละเอียด 13 ล้านพิกเซลแล้ว ในขณะที่ กล้องด้านหลังบน iPhone 5S ยังคงมีความละเอียดอยู่ที่ 8 ล้านพิกเซล เท่า iPhone 5 แต่อย่าเพิ่งเข้าใจว่า ทุกอย่างจะเหมือนเดิมครับ เพราะ Apple ได้ชี้แจงแล้วว่า กล้องบน iPhone 5S นั้น คุณภาพดีกว่า iphone 5 เพราะได้ปรับปรุงฟีเจอร์หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น
• เซ็นเซอร์ขนาดใหญ่ขึ้น
• จุดพิกเซล มีขนาดอยู่ที่ 1.5 ไมครอน ซึ่งมีขนาดใหญ่กว่า iPhone 5 ทำให้ได้ภาพที่สว่าง และคมชัดมากกว่า หมดปัญหาเรื่องการถ่ายภาพในที่แสงน้อย นอกจากนี้ ยังตรวจจับการเคลื่อนไหวได้ดีกว่าเดิมอีกด้วย
• รูรับแสงขนาด f/2.2 (ของเดิม f/2.4)
• เพิ่มฟีเจอร์ Burst shot โหมดถ่ายภาพรัว และ Slo-Mo ถ่ายคลิปแบบ slow motion ที่ 120fps
iPhone 5S vs Samsung Galaxy S4 (S IV) : Touch ID เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ
เรียกได้ว่า Touch ID หรือ เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือนั้น เป็นจุดเด่นของ iPhone 5S เลยก็ว่าได้ โดยเซ็นเซอร์ดังกล่าว ฝังอยู่ตรงปุ่ม Home ที่ได้รับการออกแบบใหม่ ต่อไป เวลาจะทำการปลดล็อค ไม่จำเป็นต้องใส่รหัส passcode แล้ว slide to unlock อีกต่อไปครับ เราสามารถแปะนิ้วที่ปุ่ม Home เพื่อปลดล็อคได้เลย
ส่วน Samsung Galaxy S4 (S IV) ยังไม่มี เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือครับ แต่คาดว่า เราน่าจะได้เห็นบน Samsung Galaxy S5 (S V) ซึ่งจะเปิดตัวในปีหน้า ก็เป็นได้
สำหรับการเปิดตัว iPhone 5S (ไอโฟน 5S) ในปีนี้ แม้ว่าเราจะไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงในด้านการออกแบบ แต่ในเรื่องของซอฟท์แวร์นั้น ถือว่า ปรับปรุงไปมาก ซึ่ง iPhone 5S จะดีกว่า Samsung Galaxy S4 (S IV) หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับผู้ใช้เป็นหลักครับว่า ชอบ สมาร์ทโฟนรุ่นใดมากกว่ากัน
เรียบเรียงข้อมูลโดย : ทีมงาน techmoblog.com