วันพุธที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2556

เดลล์เปิดตัวโน้ตบุ๊ค เวิร์คสเตชั่นขนาดบางเฉียบที่มาพร้อมดีไซน์ที่สวยงาม

เดลล์เปิดตัวโน้ตบุ๊ค เวิร์คสเตชั่นขนาดบางเฉียบที่มาพร้อมดีไซน์ที่สวยงาม

• เดลล์ พรีซิชั่น M3800 คือโมบายล์ เวิร์คสเตชั่นขนาด 15 นิ้วที่บางที่สุด และเบาที่สุดของโลก 
• มาพร้อมกับหน้าจอ Quad HD+ ที่มีความละเอียดสูงสุด ให้ความสว่างอย่างเหลือเชื่อ เพื่อนำความคิดสร้างสรรค์มาสู่ความเป็นจริง
• ประกอบด้วย โพรเซสเซอร์ อินเทล Core i7 Quad-Core กราฟิค NVIDIA Quadro และ ใบรับรองจากบริษัทกราฟฟิกแอพพลิเคชั่นชั้นนำ เพื่อการสร้างสรรค์ดิจิทัล คอนเทนท์ และการออกแบบอย่างไร้รอยต่อ
กรุงเทพ ประเทศไทย 4 ธันวาคม 2556 – เดลล์เปิดตัว เดลล์ พรีซิชั่น M3800 โมบายล์ เวิร์คสเตชั่นขนาด 15 นิ้วที่ทรงพลัง บาง และเบาที่สุด ด้วยการผสานการออกแบบที่สวยงามเข้ากับรูปทรงขนาดบางและพร้อมด้วยสมรรถนะของเวิร์คสเตชั่น เดลล์ได้มอบระบบที่แข็งแกร่งสำหรับวิศวกร และผู้ผลิตดิจิทัล คอนเทนท์ที่กำลังมองหาเครื่องที่สามารถพกพาได้ ทรงพลัง พร้อมการดีไซน์ที่มีสไตล์ เหมาะสมกับภาพลักษณ์ และสภาพแวดล้อมในการทำงาน
“เดลล์มีประวัติอันยาวนานในการส่งมอบเวิร์คสเตชั่นพร้อมสมรรถนะที่ล้ำสมัยให้กับลูกค้าในกลุ่มงานวิศวกรรม และการสร้างสรรค์ดิจิทัล คอนเทนท์” จอน เพดดี ประธาน บริษัท จอน เพดดี รีเสิร์ช กล่าว “หลังจากที่ได้เห็นเดลล์ พรีซิชั่น M3800 อัลทรา-ธิน โมบายล์เวิร์คสเตชัน มันแหมือนกับการตกหลุมรักอีกครั้งหนึ่ง

ตัวเครื่องมีทุกอย่างที่ผมต้องการสำหรับโน้ตบุ๊คที่ทรงพลังเครื่องหนึ่ง พร้อมทั้งซูเปอร์ โพรเซสเซอร์ และ GPU จอขนาดใหญ่พร้อมความละเอียดสูง น้ำหนักเบา มีช่อง I/O จำนวนมาก พร้อมสปีคเกอร์ และกล้องที่ทรงประสิทธิภาพ แล้วทำไมถึงจะไม่รักล่ะ? ด้วยเครื่องรุ่น M3800 ผมไม่จำเป็นที่จะต้องสละสมรรถนะการทำงานของตัวเครื่องให้กับโมบิลิตี้ และดีไซน์ที่สวยงามอีกต่อไป”
ด้วยความบางที่น้อยกว่า 3 ใน 4 ของขนาดนิ้ว หรือที่ขนาด 18 มิลิเมตร และน้ำหนักเริ่มต้นที่ 4.15 ปอนด์ หรือ 1.88 กิโลกรัม¹ ระบบระบายความร้อนคู่ (dual-cooling) เพื่อให้ notebook สามารถทำงานที่สมรรถนะสูงสุดได้ตลอดเวลา และแบตเตอรี่ย์ที่สามารถทำงานได้สูงถึง 10 ชั่วโมง 6 นาที² พร้อม NVIDIA® Optimus™ ที่เพิ่มขีดความสามารถสูงสุดให้กับแบตเตอรีย์เพื่อการทำงานที่เพิ่มมากขึ้น เครื่อง M3800 ช่วยให้สามารถแก้ไขวิดีโอได้ในขณะถ่ายทำ นำเสนอความคิดบนโปรแกรม CAD ให้กับลูกค้าอย่างมีสไตล์ หรือเรนเดอร์อนิเมชั่น 3D ในขณะเดินทาง
“นักออกแบบของเราต้องเดินทางอยู่เป็นประจำเพื่อพบปะ และทำงานร่วมกับผู้ขาย และลูกค้า และเดลล์ พรีซิชั่น M3800 ก็มอบสมรรถนะการทำงานในระดับเวิร์คสเตชั่นเพื่อเพิ่มพลังให้กับซอฟท์แวร์ แอพพลิเคชั่นที่พวกเขาใช้งานพร้อมด้วยดีไซน์ของตัวเครื่องที่สวยงามที่เข้ากันกับสภาพแวดล้อมการทำงาน และการสร้างความประทับใจที่เราต้องการ” เคิร์ท สเปนซ์ ไคลอันท์ ดีไวซ์ เอนจิเนียร์ บริษัท ฟรีแมน กล่าว
สมรรถนะที่โดดเด่นในเวิร์คสเตชั่นที่บาง และเบา 
สมรรถนะที่ทรงพลังจากรูปทรงที่มีขนาดบาง เดลล์ พรีซิชั่น M3800 วางจำหน่ายพร้อมกับวินโดว์ 8.1 โปร (64 บิต) หรือวินโดว์ 7 โปรเฟสชันนอล (64 บิต) ที่มาพร้อมกับเมโมรี่ที่สามารถเพิ่มได้ถึง 16 กิกะไบท์³ และอินเทล Core i7-4702HQ 8 threaded quad-core โพรเซสเซอร์เจนเนอเรชั่นที่ 4 พร้อมความเร็ว 3.2 กิกะเฮิร์ซสำหรับการรันซอฟท์แวร์แอพพลิเคชั่นได้อย่างสม่ำเสมอโดยไร้รอยต่อ
เครื่อง M3800 มาพร้อมกับ NVIDIA Quadro® K1100M GPU ที่มี เมโมรี่ GDDR5 เฉพาะ 2 กิกะบิต³ สำหรับการมองเห็นภาพพร้อมด้วยประสบการณ์ที่สมบูรณ์ด้วยซอฟท์แวร์แอพพลิเคชั่นด้านกราฟิคที่แข็งแกร่ง
เดลล์ พรีซิชั่น M3800 คือโมบายล์เวิร์คสเตชั่นขนาดบาง และเบาเครื่องแรก และเครื่องเดียวที่มอบพลังของNVIDIA Quadro GPUs บน Kepler ซึ่งเป็นโปรเฟสชันนอล กราฟิคของอุตสาหกรรม” ซานดิพ กัพเต ผู้อำนวยการอาวุโสด้านโพรดัคส์ มาร์เก็ตติ้ง สำหรับ Quadro โปรเฟสชันนอล กราฟิค บิสซิเนส ของ NVIDIA กล่าว “ด้วยวิดีโอ เมโมรี่ 2 กิกะบิต ใน NVIDIA Quadro K1100M GPU เดลล์ พรีซิชัน M3800 มอบสมรรถนะที่แข็งแกร่ง และประสบการณ์การมองเห็นที่สมบูรณ์แบบสำหรับแอพพลิเคชั่นที่เน้นหนักด้านกราฟิคที่มืออาชีพด้านการสร้างสรรค์ต่างรอคอย”
เพื่อจัดการไฟล์ข้อมูลขนาดใหญ่ในระหว่างการเดินทาง เดลล์ พรีซิชั่น M3800 มอบองค์ประกอบสตอเรจที่หลากหลาย รวมถึงดีไวซ์สตอเรจ 2 แบบพร้อมด้วยสตอเรจสูงสุดที่ 1.5 เทราไบท์⁴ (HDD SSHD หรือ SSD) โดยหนึ่งคือไดรวฟ์ 2.5-นิ้ว และหนึ่งคือดีไวซ์ Mini-Card storage (mSATA).
“ในขณะที่พื้นที่การทำงานแบบดั้งเดิมพัฒนาไปอย่างต่อเนื่อง ลูกค้าเวิร์คสเตชั่นของเราต่างต้องการระบบสำหรับการใช้งานแบบเคลื่อนที่มากขึ้น แต่ก็ไม่สามารถสละสมรรถนะที่จำเป็นสำหรับซอฟท์แวร์แอพพลิเคชั่นที่สำคัญได้” นายเอกราช ปัญจวีณิน ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท เดลล์ คอร์ปอเรชั่น (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว

“ด้วยการเปิดตัวของ M3800 เราไม่เพียงสามารถส่งมอบสิ่งที่ลูกค้าต้องการ แต่ยังรวมถึงการมอบมาตรฐานใหม่สำหรับโมบายล์ เวิร์คสเตชั่นด้วยตัวเครื่องขนาดบาง พร้อมสมรรถนะที่โดดเด่น และหน้าจอ QHD ที่ความละเอียดสูงสุดสำหรับการออกแบบ การสร้างสรรค์ และการทำงานร่วมกับลูกค้าไม่ว่าจะอยู่ในที่ทำงาน หรืออยู่ระหว่างการเดินทางก็ตาม”
M3800 ได้ปรับแต่ง และเพิ่มสมรรถนะการทำงานสำหรับแอพพลิเคชั่นด้านมีเดีย เอนเตอร์เทนเม้นท์ วิศวกรรม และการออกแบบชั้นแนวหน้า อาทิ แอพพลิเคชั่นใน Adobe Creative Cloud, Autodesk Entertainment Creation Suite and AutoCAD, Inventor and Revit, Avid Media Composer, Dassault Catia and Solidworks, PTTCreo, Siemens NX and Team Center,และอื่นๆ ทำให้มั่นใจได้ว่าแอพพลิเคชั่นที่มีความสำคัญอย่างยิ่งยวดจะทำงานตามที่ได้รับการออกแบบมา และมาพร้อมกับเดลล์ โปรซัพพอร์ต เพื่อเป็นทางเลือกสำหรับการได้รับการดูแลจากช่างผู้เชี่ยวชาญทางเทคนิคตลอด 24/7 ทั่วโลก
ดีไซน์ที่สวยงาม และการมองเห็น 
เดลล์ พรีซิชั่น M3800 ได้รับการออกแบบมาให้มีสมรรถนะในระดับอุตสาหกรรมด้วยกรอบอลูมิเนียม คาร์บอน ไฟเบอร์ แชสซีที่แข็งแกร่ง และมีน้ำหนักเบา พร้อมจอแสดงผลที่ทำจาก Corning Gorilla NBT Glass พร้อมด้วยระบบสัมผัสทั้งห้านิ้วมือบนทุกระบบ การมองรายละเอียดสามารถทำได้ง่ายดายด้วยหน้าจอ UltraSharp ขนาด 15.6 นิ้วที่มาพร้อมกับ QHD+ (3200 x 1800) หรือ FHD (1920 x 1080) เครื่อง M3800 สามารถเชื่อมเข้ากับ UltraSharp 32 มอนิเตอร์ขนาด 31.5 นิ้วสมรรถนะสูง พร้อม Ultra HD ที่ความละเอียด 3840 x 2160 ที่กำลังจะมาในปีนี้ เพื่อการผสมผสานสองหน้าจอของเวิร์คสเตชั่นที่ทรงพลัง
เพื่อช่วยให้การเปลี่ยนการทำงานจากระหว่างการเดินทางมาเป็นนั่งโต๊ะในสำนักงานทำได้ง่ายขึ้น เครื่อง M3800 มอบการสนับสนุนเอ็กเทอร์นอล มอนิเตอร์ด้วยเดลล์ D3000 USB 3.0 Docking Stationเพื่อเป็นทางเลือก สำหรับลูกค้าที่ต้องการเชื่อมต่อเข้าสู่อีเธอร์เน็ทความเร็วสูง M3800 ทุกเครื่องมาพร้อมกับยูเอสบี หรือ RJ-45 ดองเกิ้ล นอกจากนี้ยังได้รับการออกแบบให้มาพร้อมกับคีย์บอร์ดแบบ backlit เต็มขนาด ช่องเสียบยูเอสบี พาวเวอร์พอร์ต 4 ช่อง (3 USB 3.0 และ 1 USB 2.0) ทัชแพดขนาดใหญ่ วิดีโอ เวบแคมแบบ HD และ เวฟ แมกซ์ออดิโอ โปร สูท เพื่อทูลส์เพิ่มประสิทธิภาพเสียงแบบแอดวานซ์
“เราทำวิดีโอ สตรีมมิ่งในพื้นที่ (on-location) ไว้จำนวนมาก และเครื่อง M3800 ก็ขจัดปัญหาด้านน้ำหนักที่เราเคยต้องแบกออกไป แต่เรายังคงพลังความสามารถในการประมวลผลเพื่อเข้ารหัสไลฟ์ HD วิดีโอ สตรีมไว้ด้วย” สตีเฟน เทเลอร์ ผู้จัดการด้านไอทีสำหรับเวบ เซอร์วิส ที่มหาวิทยาลัย Appalachian State “ที่สุดยอดที่สุดของหน้าจอ QHD+ ก็คือเราสามารถที่จะมอนิเตอร์ 1080p วิดีโอที่ความละเอียดเต็มพิกัดบนส่วนหนึ่งของสกรีนในขณะที่มอนิเตอร์ข้อมูลที่ส่งเข้ามาบนอีกหน้าจอหนึ่ง เมื่อพื้นที่ และน้ำหนักไม่ใช่ปัญหา สมรรถนะก็สามารถใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพ และนี่คือสิ่งที่ M3800 มอบให้เรา”
ความพร้อมในการวางตลาด และราคา
เดลล์ พรีซิชั่น M3800 จะพร้อมวางจำหน่ายทั่วโลกในวันที่ 14 พฤศจิกายน
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม เยี่ยมชมได้ที่ www.dell.com/speedoflight.

.......... .......... .......... .......... ..........

วันอาทิตย์ที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2556

ยกขบวนมือถือ สเปคเร็วแรง กล้องชัด ราคาต่ำกว่าหมื่น

ยกขบวนมือถือ สเปคเร็วแรง กล้องชัด ราคาต่ำกว่าหมื่น

เทคโนโลยีโทรศัพท์มือถือเติบโตแพร่หลายอย่างรวดเร็วมากในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา โทรศัพท์มีประสิทธิภาพมากขึ้นจนแทบไม่อาจเรียกได้ว่าโทรศัพท์อีกต่อไป ดังนั้น เราจึงเรียกอุปกรณ์ที่ใช้โทรออก เล่นวิดีโอ ถ่ายภาพ และอีกมากมายว่าสมาร์ทโฟน หรืออุปกรณ์ฉลาดล้ำที่เป็นมากกว่าแค่โทรศัพท์
วันนี้ทางทีมงาน Sanook! Hitech มีโทรศัพท์มือถือ 4 รุ่นที่ราคาไม่ถึงหมื่นและคุณสมบัติน่าสนใจมาฝากสาวก "แอนดรอยด์" กันครับ

Samsung Galaxy Win 4.7" จอใหญ่ ทุกงานทำได้ ไม่มีสะดุด

คุณสมบัติ ประสิทธิภาพเหลือล้น

• หน้าจอขนาดใหญ่ 4.7นิ้ว มอบการแสดงผลที่ยอดเยี่ยม โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับภาพถ่ายและ ภาพยนตร์
• Quad-Core CPU ความเร็ว 1.2GHz มอบพลังประมวลผลที่ก้าวล้ำ รองรับแอพพลิเคชั่นทั้งหมดได้อย่างครบถ้วน รวมถึงการทำงานแบบมัลติทาสกิ้ง และอื่นๆ อีกมากมาย

การถ่ายภาพที่เหนือกว่าด้วยกล้อง 5 ล้านพิกเซล

เพลิดเพลินกับฟีเจอร์ต่างๆ เช่น การถ่ายภาพต่อเนื่อง, การเลือกภาพที่ดีที่สุด, เอฟเฟ็กต์สี และ Scene Mode เพื่อการถ่ายภาพที่เหนือกว่าด้วยกล้อง 5 ล้านพิกเซล

Easy Mode

Easy Mode ช่วยให้คุณเรียกใช้ฟังก์ชั่นสำคัญๆ เช่น รายชื่อติดต่อ แอพ ปุ่มกด ฯลฯ บนหน้าจอหลักได้อย่างง่ายดาย

Samsung Galaxy Win มาพร้อมราคา 8,900 บาท

Galaxy Ace 3  สมาร์ทโฟนเร็วแรง ระดับ Dual Core กล้อง 5 ล้าน ฟรี!! Flipcover ถ่ายภาพคมชัด


คุณสมบัติ Sound & Shot ช่วยให้คุณสามารถบันทึกเสียงในขณะที่ถ่ายภาพได้

ㆍS Translator บริการแปลภาษาที่รวดเร็วเมื่อต้องติดต่อสื่อสารกับผู้ใช้ทั่วโลก
ㆍS Travel บริการคำแนะนำ ไกด์นำเที่ยว และอีกมากมายสำหรับการเดินทางท่องเที่ยวของคุณ

* S Translator ขึ้นอยู่กับการเชื่อมต่อข้อมูลและภาษาที่พร้อมใช้งานมีจำกัด
อาจมีข้อกำหนดและ/หรือค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม ผลลัพธ์จะแตกต่างกันไปตามสถานการณ์แวดล้อม

สมรรถนะที่เหนือกว่า (2)

ㆍS Voice ใช้เสียงของคุณปลุกโทรศัพท์ รับสายโทรเข้า หรือแม้แต่ถ่ายภาพ
ㆍถ่ายภาพด้วย Best Photos ที่ซึ่งคุณสามารถเลือกภาพที่ดีที่สุดจากการถ่ายภาพต่อเนื่อง 8 ภาพได้เสมอ
ㆍแชร์ภาพกับเพื่อนฝูง ทำให้เพื่อนๆสามารถเข้าถึงภาพถ่ายของคุณอย่างรวดเร็วทันใจเมื่อใบหน้าของพวกเขาถูกจดจำไว้แล้ว

ฟีเจอร์และการบริการที่อัจฉริยะโดดเด่น (1)

ㆍเพลิดเพลินไปกับฟีเจอร์ Android OS รุ่นล่าสุดที่ซึ่งคุณสามารถเข้าถึงข้อมูลได้ทุกที่ทุกเวลา หรือแม้ว่าในขณะที่โทรศัพท์ของคุณจะไม่ได้ใช้งานหรือมีการเชื่อมต่อ
ㆍ Easy Mode ทำให้การตั้งค่าหน้าจอหลักเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น เหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับผู้ใช้สมาร์ทโฟนเป็นครั้งแรก
ㆍ Motion UX ช่วยให้การเคลื่อนไหวเพื่อทำกิจวัตรประจำวันเป็นเรื่องง่าย
Galaxy Ace 3 มาพร้อมราคา 6,900 บาท

Samsung Galaxy Core ซิมคู่พร้อมใช้งานตลอดเวลา รองรับไลฟ์สไตล์อัจฉริยะ

คุณสมบัติ

• สองซิมที่พร้อมใช้งานอยู่เสมอ คุณจึงเรียกใช้ซิมการ์ดทั้งสองได้อย่างทันใจ เช่น รับสายเรียกเข้าที่ซิม 1 ในขณะที่กำลังใช้ซิม 2 อยู่
• ซิมคู่แบบไฮบริดช่วยให้คุณใช้ซิมการ์ดแต่ละอันได้โดยไม่ต้องปิด-เปิดเครื่อง
• ใช้ประโยชน์จากระบบบิลที่แยกต่างหาก โปรค่าโทรที่แตกต่างกัน และความครอบคลุมที่กว้างกว่า

สมรรถนะที่เหนือกว่า

• 1.2GHz CPU มอบพลังประมวลผลที่เหนือชั้นสำหรับการทำงานมัลติทาสกิ้งที่ราบรื่น การโหลดหน้าจออย่างรวดเร็ว และการเปลี่ยน UI อย่างนุ่มนวล
• หน่วยความจำ 8GB รองรับการจัดเก็บข้อมูลจำนวนมาก + 8Gb RAM ช่วยเพิ่มความสะดวกรวดเร็วในการทำงาน
• ประกอบด้วยระบบปฏิบัติการ Android ล่าสุด รุ่น Jelly Bean ทุกสิ่งจึงรวดเร็ว ลื่นไหล และราบรื่น พร้อมการเข้าถึงแผนที่, Google Now, แผงการแจ้งเตือนแบบปรับปรุง และวิดเจ็ทที่ยืดหยุ่น

บริการอัจฉริยะ

• ChatON Messenger เชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือทุกเครื่องผ่านทางแพลตฟอร์มเดียวสำหรับการรับส่งข้อความ
• บริการ Premium Hub Services นำเสนอเนื้อหาคอนเทนต์ที่หลากหลาย (สื่อ e-reading, เพลง, วิดีโอ และเกม) ในฮับที่ใช้งานสะดวก
• บริการคลาวด์มอบประสบการณ์ที่เหมือนกันให้กับอุปกรณ์หลายเครื่อง ด้วยการซิงค์และสำรองข้อมูลและเนื้อหาคอนเทนต์ต่างๆ บนอุปกรณ์

Samsung Galaxy Core  มาพร้อมราคา 7,900 บาท

Samsung  Galaxy S Duos  สำหรับการใช้ชีวิตสองด้านอย่างชาญฉลาด ซิมคู่ พร้อมจอแสดงผลที่คมชัด 4 นิ้ว


Samsung นำเสนอ Galaxy S Duos ต่อยอดจากความสำเร็จของ Galaxy S จาก Samsung มอบสไตล์และดีไซน์ที่สวยล้ำ สมรรถนะระดับไฮเอนด์ และประโยชน์ใช้สอยที่เหนือชั้น พร้อมความสะดวกในการเข้าใช้ดูอัลซิม! เพลิดเพลินกับความสะดวกในการเลือกใช้ซิมที่มีสัญญาณแรงกว่า ครอบคลุมพื้นที่กว้างขวางกว่า ค่าบริการถูกกว่า รวมถึงความสามารถในการแยกสายสนทนาเรื่องงานและเรื่องส่วนตัวออกจากกัน ด้วยคุณสมบัติดีๆ ทั้งหมดที่ Galaxy S Duos มอบให้ และ อื่นๆ อีกมากมาย!

Dual SIM Always On


Dual SIM Always On คือบริการแปลกใหม่ที่ช่วยให้มั่นใจว่าคุณจะไม่พลาดการติดต่อ บริการ Dual SIM จาก Samsung ช่วยให้คุณสามารถรับสายเรียกเข้าขณะที่คุณกำลังเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต หรือแม้กระทั่งในกรณีที่คุณกำลังพูดสายโดยใช้ซิมการ์ดอีกอันหนึ่ง เพิ่มคุณประโยชน์สูงสุดสำหรับการมีซิมการ์ด 2 อันที่พร้อมใช้งานในเวลาเดียวกัน!
ตื่นเต้นกับสุดยอดความบันเทิง ด้วยหน้าจอขนาดใหญ่ 4 นิ้ว
ไม่ต้องหรี่ตาเพื่อเพ่งอ่านข้อความ! ไม่ต้องสูญเสียรายละเอียดเมื่อดูภาพถ่ายหรือวิดีโอ! หน้าจอขนาดใหญ่ 4 นิ้วรองรับการแสดงเว็บเพจ อีเมลยาวๆ ภาพถ่ายและวิดีโอความละเอียดสูงได้อย่างสบายๆ ทุกรายละเอียดจะคมชัดสดใสอย่างแท้จริง

Android ICS ที่ปรับปรุงดีขึ้น


โทรศัพท์ดังกล่าวขับเคลื่อนด้วย ICS OS รุ่นล่าสุด พร้อมการแสดงผลที่เหนือชั้น และเค้าโครงที่เป็นระเบียบมากขึ้น ช่วยให้คุณเพลิดเพลินกับการทำงานอย่างแท้จริง 

Samsung  Galaxy S Duos  มาพร้อมราคา 5 ,900 บาท

ที่มา: http://www.samsung.com/th/promotion/smartphoneunder10k/

iPhone 5S vs Samsung Galaxy S4 ใครมาวิน ชนะเลิศ

iPhone 5S vs Samsung Galaxy S4 ใครมาวิน ชนะเลิศ

เปรียบเทียบ สเปค iPhone 5S vs Samsung Galaxy S4 (S IV) สมาร์ทโฟนเรือธง 2 รุ่น สูสีกันมากน้อยแค่ไหน ?
หลังจากที่ ทีมงาน techmoblog ได้สรุป เปรียบเทียบสเปค iPhone 5S vs Samsung Galaxy Note 3 กันไปแล้ว คราวนี้ เรามาเปรียบเทียบ iPhone 5S (ไอโฟน 5s) กับสมาร์ทโฟนตัวแรงอีกรุ่นจาก ซัมซุงกันบ้าง นั่นก็คือ Samsung Galaxy S4 (S IV) นั่นเอง (iPhone 5S vs Samsung Galaxy S4)
สำหรับ Samsung Galaxy S4 นั้น เปิดตัวครั้งแรก ตั้งแต่เดือนมีนาคม ที่ผ่านมา และถือว่า เป็น แอนดรอยด์โฟน ที่มีสเปคที่แรงที่สุดในตอนนั้นเลยก็ว่าได้ แน่นอนว่า เมื่อ iPhone 5S (ไอโฟน 5S) คู่แข่งรายหลัก เปิดตัวอย่างเป็นทางการ ทั้ง 2 รุ่นนี้ จึงถูกเปรียบเทียบกันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ มาดูกันว่า เมื่อนำ iPhone 5S มาเปรียบเทียบกับ Samsung Galaxy S4 จะมีสเปคแตกต่างกันมากน้อยแค่ไหน
เปรียบเทียบสเปค iPhone 5S vs Samsung Galaxy S4

ยี่ห้อ - รุ่น
iPhone 5S
Samsung Galaxy S4
ขนาดตัวเครื่อง
123.8 x 58.6 x 7.6 มม.
136.6 x 69.8 x 7.9 มม.
น้ำหนัก
112 กรัม
130 กรัม
ขนาดหน้าจอ
4 นิ้ว
4.99 นิ้ว
ความละเอียดหน้าจอ
1136 x 640 พิกเซล
1920 x 1080 พิกเซล
เทคโนโลยีบนหน้าจอ
IPS LCD
Retina display
Super AMOLED
ชิปเซ็ต
Apple A7 พร้อม ชิป M7 motion coprocessor และรองรับการประมวลผล
แบบ 64-bit
Exynos 5 Octa 5420 หรือ Qualcomm Snapdragon 600
พิกเซลต่อนิ้ว (ppi)
326 ppi
441 ppi
RAM
ยังไม่ระบุ
2 GB
หน่วยความจำภายใน
16GB, 32GB, 64GB
16GB, 32GB, 64GB
รองรับ microSD card
ไม่รองรับ
รองรับสูงสุด 64 GB
ระบบปฏิบัติการ
iOS 7
Android 4.2.2 Jelly Bean
กล้องด้านหน้า
1.2 ล้านพิกเซล
2 ล้านพิกเซล
กล้องด้านหลัง
8 ล้านพิกเซล
13 ล้านพิกเซล
ไฟแฟลช
True Tone Flash
(Dual LED)
LED Flash
เครือข่าย 2G
850/900/1800/1900 MHz
850/900/1800/1900 MHz
เครือข่าย 3G
850/900/1900/2100 MHz
850/900/1900/2100 MHz
เครือข่าย 4G
รองรับ
รองรับ
Wi-Fi
Wi-Fi 802.11 a/b/g/n และรองรับความถี่ WiFi แบบ Dual Band (2.4 และ 5 GHz)
Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac และรองรับความถี่ WiFi แบบ Dual Band (2.4 และ 5 GHz)
NFC
ไม่รองรับ
รองรับ
แบตเตอรี่
ยังไม่มีข้อมูล
2600 mAh
iPhone 5S vs Samsung Galaxy S4 (S IV) : การออกแบบ และวัสดุที่ใช้
สำหรับวัสดุตัวเครื่องบน Samsung galaxy s4 นั้น ยังคงเหมือนกับ มือถือซัมซุง รุ่นอื่นๆ นั่นก็คือ ทำมาจากพลาสติกครับ ในขณะที่ iPhone 5S ทำมาจากอะลูมิเนียม ซึ่งให้ความแข็งแรง และทนทานมากกว่า ถึงแม้ว่า iPhone 5 จะได้รับข้อติชมในเรื่องของ ตัวเครื่องเป็นรอยได้ง่าย แต่คาดกันว่า น่าจะได้รับการปรับปรุงแล้วในรุ่นนี้
มาดูที่ขนาดหน้าจอกันบ้าง Samsung Galaxy S4 (S IV) นั้น มาพร้อมหน้าจอขนาด 5 นิ้ว ความละเอียดแบบ Full HD 1920 x 1080 พิกเซล แน่นอนว่า มีขนาดที่ใหญ่กว่า  มากพอสมควร และน้ำหนักมากกว่าเล็กน้อย ส่วนเรื่องความหนาของตัวเครื่อง iPhone 5s มีขนาดที่บางกว่าครับ อยู่ที่ 7.6 มิลลิเมตร ในขณะที่ Samsung Galaxy S4 หนา 7.9 มิลลิเมตร ซึ่งถ้าถือใช้งานปกติ อาจจะมองได้ว่า ไม่ต่างกันมากนัก
ส่วนเรื่องสีสันตัวเครื่อง iPhone 5s มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ Space Gray, Gold และ Silver ส่วน samsung galaxy note 3 มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ สีขาว และ สีดำ แต่คาดว่า น่าจะเปิดตัวสีอื่นอีกในเร็วๆ นี้
iPhone 5S vs Samsung Galaxy S4 (S IV) : หน่วยประมวลผล
มาดูกันที่เรื่องของ หน่วยประมวลผลกันบ้างครับ iPhone 5S นั้น เป็น iPhone รุ่นแรกที่มาพร้อมกับชิป Apple A7 โดยถึงแม้ว่า ทาง Apple จะยังไม่เผยรายละเอียดว่า Apple A7 นั้น เป็นหน่วยประมวลผลแบบ Dual-Core Processor หรือ Quad-Core Processor แต่เชื่อกันว่า Apple A7 น่าจะเป็นหน่วยประมวลผลแบบ Dual-Core Processor ความเร็ว 1.7 GHz ซึ่งบางที Apple อาจจะกำหนดการ clock ไม่ถึง 1.7 GHz ครับ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะช่วยประหยัดพลังงานนั่นเอง
โดยชิป Apple A7 นั้น ทาง Apple เผยว่า ประมวลผลได้เร็วกว่า ชิป Apple A6 บน iPhone 5 และ iPhone 5C ถึง 2 เท่าเลยทีเดียว นอกจากนี้ ยังรองรับการประมวลผลแบบ 64-bit อีกด้วย
นอกจากนี้ Apple A7 ยังมีชิป coprocessor อีกตัวหนึ่ง ที่มีชื่อว่า M7 ซึ่งทำหน้าที่ในการประมวลผลผ่านทางเซ็นเซอร์ accelerometer และ gyroscope ที่เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวโดยตรง ทำให้สามารถ track การเคลื่อนที่ของผู้ใช้ได้ โดยไม่สิ้นเปลืองพลังงานแบตเตอรี่แต่อย่างใด ซึ่งหลักๆ แล้ว ชิป M7 จะใช้กับ แอพฯ ที่เกี่ยวข้องกับ สุขภาพ หรือ การออกกำลังกายเป็นหลักครับ
ส่วน Samsung Galaxy S4 นั้น มาพร้อมกับชิปประมวลผลให้เลือกกันถึง 2 แบบ ซึ่งได้แก่
• ชิปเซ็ต Exynos 5 Octa ประกอบไปด้วย ซีพียู 2 ตัว ได้แก่ Quad-core Cortex-A15 processor ความเร็ว 1.6GHz และ Quad-core Cortex-A7 processor ความเร็ว 1.2GHz 
• ชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 600 ซึ่งเป็นซีพียูแบบ Quad-core processor ความเร็ว 1.9GHz
ซึ่งหน่วยประมวลผลที่ใช้บน Samsung Galaxy s4 นั้น ถ้าเปรียบเทียบกับ มือถือ แอนดรอยด์ รุ่นอื่นๆ ถือว่า เป็นสมาร์ทโฟนตัวแรงตัวหนึ่งเช่นกัน
iPhone 5S vs Samsung Galaxy S4 (S IV) : ระบบปฏิบัติการ
สำหรับระบบปฏิบัติการ (OS) ที่ใช้นั้น มีความแตกต่างกันครับ โดย Samsung Galaxy S4 เป็นระบบปฏิบัติการ Android 4.2 Jelly Bean ส่วนบน iPhone 5S เป็น iOS 7 ที่จะเปิดให้ผู้ใช้ทั่วไปได้ดาวน์โหลดกัน ในวันที่ 18 กันยายน ที่จะถึงนี้ ถ้าหากจะถามว่า OS ตัวไหนดีกว่า จริงๆ แล้วเป็นคำถามที่หาคำตอบไม่ได้ครับ เพราะขึ้นอยู่กับว่า ผู้ใช้ชื่นชอบ ระบบปฏิบัติการ ตัวใดมากกว่ากัน
iPhone 5S vs Samsung Galaxy S4 (S IV) : กล้อง
สำหรับคุณสมบัตินี้ ทั้ง Samsung Galaxy S4 และ iPhone 5S มีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน เนื่องจาก galaxy s4 นั้น มาพร้อมกล้องด้านหลัง ความละเอียด 13 ล้านพิกเซลแล้ว ในขณะที่ กล้องด้านหลังบน iPhone 5S ยังคงมีความละเอียดอยู่ที่ 8 ล้านพิกเซล เท่า iPhone 5 แต่อย่าเพิ่งเข้าใจว่า ทุกอย่างจะเหมือนเดิมครับ เพราะ Apple ได้ชี้แจงแล้วว่า กล้องบน iPhone 5S นั้น คุณภาพดีกว่า iphone 5 เพราะได้ปรับปรุงฟีเจอร์หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น
• เซ็นเซอร์ขนาดใหญ่ขึ้น
• จุดพิกเซล มีขนาดอยู่ที่ 1.5 ไมครอน ซึ่งมีขนาดใหญ่กว่า iPhone 5 ทำให้ได้ภาพที่สว่าง และคมชัดมากกว่า หมดปัญหาเรื่องการถ่ายภาพในที่แสงน้อย นอกจากนี้ ยังตรวจจับการเคลื่อนไหวได้ดีกว่าเดิมอีกด้วย
• รูรับแสงขนาด f/2.2 (ของเดิม f/2.4)
• เพิ่มฟีเจอร์ Burst shot โหมดถ่ายภาพรัว และ Slo-Mo ถ่ายคลิปแบบ slow motion ที่ 120fps
iPhone 5S vs Samsung Galaxy S4 (S IV) : Touch ID เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ
เรียกได้ว่า Touch ID หรือ เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือนั้น เป็นจุดเด่นของ iPhone 5S เลยก็ว่าได้ โดยเซ็นเซอร์ดังกล่าว ฝังอยู่ตรงปุ่ม Home ที่ได้รับการออกแบบใหม่ ต่อไป เวลาจะทำการปลดล็อค ไม่จำเป็นต้องใส่รหัส passcode แล้ว slide to unlock อีกต่อไปครับ เราสามารถแปะนิ้วที่ปุ่ม Home เพื่อปลดล็อคได้เลย
ส่วน Samsung Galaxy S4 (S IV) ยังไม่มี เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือครับ แต่คาดว่า เราน่าจะได้เห็นบน Samsung Galaxy S5 (S V) ซึ่งจะเปิดตัวในปีหน้า ก็เป็นได้
สำหรับการเปิดตัว iPhone 5S (ไอโฟน 5S) ในปีนี้ แม้ว่าเราจะไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงในด้านการออกแบบ แต่ในเรื่องของซอฟท์แวร์นั้น ถือว่า ปรับปรุงไปมาก ซึ่ง iPhone 5S จะดีกว่า Samsung Galaxy S4 (S IV) หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับผู้ใช้เป็นหลักครับว่า ชอบ สมาร์ทโฟนรุ่นใดมากกว่ากัน
เรียบเรียงข้อมูลโดย : ทีมงาน techmoblog.com

วันศุกร์ที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2556

เมื่อมีคนจับ Vivo X3 มือถือที่บางที่สุดในโลกมาทำเป็นมีดหั่นผัก

เมื่อมีคนจับ Vivo X3 มือถือที่บางที่สุดในโลกมาทำเป็นมีดหั่นผัก

อย่างที่ทราบกันครับว่าสถิติสมาร์ตโฟนหรือโทรศัพท์มือถือที่บางที่สุดในโลกรายใหม่กำลังจะตกเป็นของ Vivo X3 จากประเทศจีนด้วยความบางเพียง 5.6 มิลลิเมตรเท่านั้น ซึ่งล่าสุดทางบริษัท Vivo เองได้จับเอา Vivo X3 มาถ่ายภาพคอนเซปต์โฆษณาที่พิลึกกึกกือสุดๆ...ด้วยการเอาVivo X3 มาหั่นผักเหมือนมีดทำครัวซะงั้น!!!
 
ทั้งนี้สำหรับสเปคเบื้องต้นของ Vivo X3 นอกจากจะมีความบางอยู่ที่ 5.6 มม. แล้วก็จะมาพร้อมกับหน้าจอ Full HD 1080p และชิปเซ็ต Quad Core CPU ด้วย (สงสัยจะเป็น MediaTek) ส่วนที่เหลือคงต้องไปรอคอนเฟิร์มในงานเปิดตัว Vivo X3 อีกทีเร็วๆนี้จ้า :P

เครดิต: ป๋าเอก TechXcite
ที่มาข่าวและภาพ: mtksj

วันพฤหัสบดีที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2556

คำถามสุดยอดแฟนพันธุ์แท้ ถามว่า สมาร์ทโฟนที่มีราคาแพงที่สุดในโลกมีชื่อว่าอะไร

คำถามสุดยอดแฟนพันธุ์แท้ ถามว่า สมาร์ทโฟนที่มีราคาแพงที่สุดในโลกมีชื่อว่าอะไร

พอดีไปเห็นคำถามนี้มา เลยอยากรู้ว่าสมาร์ทโฟนที่แพงที่สุดในโลกที่ผลิตออกมานั้นคือรุ่นไหน ยี่ห้อไหน และมีราคาเท่าไร ไม่รวมเอาพวกมือถือสมาร์ทโฟนประเภทที่เอามาติดเพชร ใส่ขอบทองกันเองทีหลัง แต่เป็นสมาร์ทโฟนที่ได้รับการบันทึกจากกินเนสบุ๊ค ว่าแพงที่สุดในโลก เราไปดูกันดีกว่ากับหน้าตาของมือถือสมาร์ทโฟนที่แพงที่สุดในโลกตัวนี้


นี่คือสมาร์ทโฟนที่แพงที่สุดในโลก มีชื่อว่า Ulysse Nardin Chairman อ่านออกเสียงภาษาไทยว่า "ยูลิส นาแดง รุ่นแชร์แมน" สมาร์ทโฟนตัวนี้ได้รับการบันทึกไว้ในกินเนสบุ๊กว่าเป็นมือถือที่ทำออกมาเพื่อวางจำหน่ายและเป็นสมาร์ทโฟนที่มีราคาแพงที่สุดในโลก(ไม่ใช่มือถือรุ่นพิเศษ ทำออกมาโชว์ หรือประเภทต้องสั่งทำอะไรเทือกนั้น) โดย Ulysse Nardin Chairman ทำออกมาเป็นซีรี่ย์หลายรุ่นมีราคาตั้งแต่ $13,000 ถึง $50,000 ตามแต่วัสดุที่ใช้ เช่น ทองคำ หรือ รุ่นฝังเพชร ซึ่งแต่ละรุ่นจะมีจำนวนจำกัด ที่น่าสนใจคือบริษัทผู้ผลิตสมาร์ทโฟนตัวนี้ไม่ใช่บริษัทมือถือ แต่เป็นบริษัทผู้ผลิตนาฬิกาชั้นนำสุดหรูจากสวิตเซอร์แลนด์



สำหรับสเป็คของสมาร์ทโฟนตัวนี้มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android ตัวเครื่องมีโรเตอร์ขึ้นลานเฉกเช่นเดียวกับนาฬิกา Automatic ไว้สำหรับสร้างพลังงานเพื่อเก็บสำรองไว้ในแบตเตอรี่ได้ (Kinetic power system) โดยสามารถมองเห็นผ่านกระจกแซฟไฟร์ด้านหลังตัวเครื่อง หน้าจอแบบระบบสัมผัสขนาด 3.2 นิ้ว กล้องถ่ายภาพ 8 ล้านพิกเซล และหน่วยความจำภายใน 32 GB รองรับคลื่นความถี่ 2G แบบ 850/900/1800/1900MHz และคลื่นความถี่ 3G แบบ 900/2100MHz



สำหรับผู้สนใจอยากทราบข้อมูลเพิ่มเติมของสมาร์ทโฟน Ulysse Nardin Chairman สามารถดูรายละเอียดได้ที่เว็บไซต์ www.uncells.com


แต่ถ้าถามถึงมือถือที่แพงที่สุดในโลกจริงๆ ไม่ใช่แค่ป็นสมาร์ทโฟน ต้องตัวนี้ GoldVish SA’s ‘Le Million’ ออกแบบโดย GoldVish of Geneva ผู้ผลิตนาฬิกาและมือถือสุดหรูของโลก เป็นผลงานการดีไซน์ของ Emmanuel Gueit  โดยตัวที่ได้รับการบันทึกสถิติจากกินเนสบุ๊คนั้นมีราคาถึง 1 ล้านยูโรเลยทีเดียว โดยถูกขายไปในงาน Millionaire Fair ที่เมืองคานส์ ประเทศฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 2 กันยายน 2006 ตัวเครื่องทำจากทองคำขาว 18K ประดับเพชรรวม 20 กะรัต โดยตัวเครื่องนั้นรองรับการใช้งาน Bluetooth หน่วยความจำภายใน 2 GB ฟังวิทยุได้ และถ้าคุณอยากได้ต้องสั่งทำพิเศษเพราะไม่ได้ผลิตมาวางขายทั่วๆไป

เครดิต : น้าป๋วย TechXcite
ที่มา : guinnessworldrecords